
สสส. ผนึกกำลัง สคอ.-กระทรวงมหาดไทย-กรมขนส่ง ชักชวนชาวไทยลดอุบัติเหตุวันสงกรานต์ “ควบคุมสติ ก่อนสตาร์ท กลับไปอยู่บ้านปราศจากภ…
สสส.-สคอ.-กระทรวงมหาดไทย-กรมขนส่งทางบก ผนึกกำลังลดอุบัติเหตุวันสงกรานต์ 65 เข้มตรวจสิ่งเสพติดคนขับรถเมล์สาธารณะ เป่าแอลกอฮอล์คนขับขี่ เผยอุบัตำหนิเหตุขับเร็ว ดื่มแล้วขับ มาลำดับหนึ่งเชิญชวนชาวไทย“ควบคุมสติ ก่อนสตาร์ท วันสงกรานต์กลับไปอยู่บ้านไม่มีอันตราย” ดื่มไม่ขับ-ลดความเร็ว-คาดเข็มขัด-ใส่หมวกนิรภัยก่อนขับรถ ลดเสี่ยง ลดตาย
ช่วงวันที่ 4 เม.ย.65 ที่ทำการโครงข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ที่ทำการกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) แล้วก็กลุ่มโครงข่าย จัดงานแถลงข่าว “มีสติ ก่อนสตาร์ท” วันสงกรานต์กลับไปอยู่ที่บ้านไม่มีอันตราย 2565 เพื่อรณรงค์สร้างความประจักษ์แจ้งขับรถไม่มีอันตราย ปกป้องและก็ลดอุบัติเหตุทางถนนหนทางในตอนเทศกาลวันสงกรานต์ในรร.แกรนด์ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น โรงแรม อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดนนทบุรี
ดร.นพ.รุ่งโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) พูดว่า เทศกาลวันสงกรานต์ปีนี้ทาง สสส. ได้ร่วมกับแนวร่วมโครงข่ายทำงานสร้างความประจักษ์แจ้งด้านความปลอดภัยทางถนนหนทางมาอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการให้องค์ความรู้ความเข้าใจเรื่องดูแลรวมทั้งปกป้องวัววิด-19 แล้วก็ตอนวันสงกรานต์ที่มีวันหยุดหลายวัน ยิ่งจะต้องเน้นเรื่อง ดื่มไม่ขับ ลดความเร็ว แล้วก็ งดเว้น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เมื่อจำต้องขับรถ เพื่อคุ้มครองป้องกันและก็ลดอุบัติเหตุทางถนนหนทาง รวมทั้งปริมาณคนที่ได้รับบาดเจ็บและก็คนตายให้ได้มากที่สุด สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนหนทางจากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนหนทาง (ศปถ) ตอนเทศกาลวันสงกรานต์ปี 2564 เกิดอุบัติเหตุ 2,365 ครั้ง เจ็บ 2,357 คน เสียชีวิต 277 ราย ช่วงวันที่มีคนตายสูงสุดเป็น วันที่ 12-13 แล้วก็ 14 ม.ย. เป็นวันที่มีการดื่มสังสรรค์อย่างมาก เจอคนเสียชีวิตอยู่ที่ 69 ราย 43 ราย และก็ 40 ราย เป็นลำดับ ยิ่งกว่านั้นปัจจัยวิธีการเสียชีวิต ตัวอย่างเช่น ขับขี่รถเร็ว 48.93 ดื่มแล้วขับ 21.29 ชิงกระชั้นชิด 16.74
“วันสงกรานต์ปีนี้ สสส.ได้ทำแคมเปญรณรงค์ “ควบคุมสติ ก่อนสตาร์ท วันสงกรานต์กลับไปอยู่ที่บ้านไม่มีอันตราย” ผลิตสื่อสปอตและก็คลิปวิดีโอ ติดต่อสื่อสารผ่านสื่อหลักรวมทั้งออนไลน์แล้วก็ เพื่อชักชวนคนประเทศไทยมีสติ ลดความประพฤติเสี่ยง “ดื่มแล้วขับ” ที่แอลกอฮอล์ในเลือด 150 มก.เปอร์เซ็นต์ เพิ่มช่องทางเกิดอุบัติเหตุถึง 40 เท่า, “ขับขี่รถเร็ว” ถ้าเกิดมีการชนที่ความเร็ว 60 กม./ชั่วโมง = ตกอาคาร 5 ชั้น, “ใส่หมวกนิรภัย” ลดการตายได้ถึง 39% และก็ “คาดเข็มขัด” ช่วยลดอาการบาดเจ็บทั่วๆไปถึง 50% เพื่อกลับไปถึงที่บ้าน กลับไปพบผู้ที่รักโดยสวัสดิภาพ ขณะเดียวกันนี้ยังรณรงค์ท่องเที่ยววันสงกรานต์วิถีใหม่ ปราศจากสุรา ไม่เป็นอันตราย ไกลห่างวัววิด-19”
ดร.นพ.รุ่งเรือง กล่าว
นายพระพรหมไม่นทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการที่ทำการโครงข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) พูดว่า การปฏิบัติการในตอนวันสงกรานต์ สคอ.มีข้อแนะนำไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวขอให้บังคับใช้ข้อบังคับเข้มข้นย้ำ ควบคุมขับเร็ว ดื่มแล้วขับ การจำหน่ายรวมทั้งดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เน้นย้ำดูแลพิเศษห้ามขายให้เด็กและก็เยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี นอกนั้นจุดตรวจ-จุดบริการ เสนอปรับเป็นหน่วยเที่ยวตรวจ-เฝ้าระวังงานเลี้ยงสังสรรค์ สกัดคนดื่มแล้วขับ เตือนลดความเร็ว เพื่อให้มีความปลอดภัยสำหรับเพื่อการเดินทางโดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ขับ ควรจะงดเว้นดื่มก่อนจะมีการเดินทางขั้นต่ำ 3 วัน พักให้เต็มกำลัง ส่วนผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยควรจะมีส่วนช่วยระแวดระวังเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากถ้าเกิดบกพร่องมีการสิ้นไปเกิดขึ้น ทุกคนที่อยู่ในรถยนต์ ย่อมได้รับผลพวงด้วยเหมือนกัน ขอให้ “มีสติ ก่อนสตาร์ท” เพื่อไปสู่เทศกาลวันสงกรานต์พร้อมโดยสวัสดิภาพจากอุบัติเหตุทางถนนหนทาง
นายวิทยา จันทร์เสนะ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนนหนทาง กรมคุ้มครองรวมทั้งทุเลาสาธารณภัย บอกว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนหนทางในฐานะเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลสำหรับในการบูรณาการงานคุ้มครองรวมทั้งลดเกิดหเหม็นตุทางถนนหนทางของประเทศ เน้นย้ำการจัดการจัดแจงร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ ดึงหน่วยงานดูแลส่วนท้องถิ่น ชุมชน อาสาสมัคร และก็พสกนิกรเข้ามีส่วนร่วม เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนหนทางของประเทศ ได้ระบุตัวชี้วัด 3 ระดับเป็น ระดับภาพรวม เป็นต้นว่าปริมาณผู้ตายในความประพฤติปฏิบัติเสี่ยงหลักยกตัวอย่างเช่น ขับขี่รถเร็วเกินกว่าข้อบังคับระบุ ดื่มแล้วขับ ไม่ใส่หมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ต่ำลงไม่น้อยกว่า 5% ในระดับหน่วยงาน ปริมาณครั้งการเกิดอุบัติเหตุ คนตาย ผู้ที่บาดเจ็บที่เกิดบนถนนหนทาง อปท. ปริมาณรถประจำทางสาธารณะที่เกิดอุบัติเหตุแล้วก็คนตาย รวมถึงปริมาณเด็กและก็เยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บที่แก่ต่ำลงยิ่งกว่า 20 ปีจากการดื่มสุราแล้วขับรถยานพาหนะ ต่ำลงไม่น้อยกว่า 5% และก็ระดับพื้นที่ อำเภอเสี่ยงที่เป็นสีแดง 24 อำเภอ สีส้ม 115 อำเภอ สีเหลือง 378 อำเภอ รวมทั้งสีเขียว 411อำเภอ ปริมาณคนตายในอำเภอเสี่ยงที่เป็นสีแดง รวมทั้งปริมาณคนเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุของจังหวัด น้อยลงไม่น้อยกว่า 5 % เน้นปริมาณคนขับขี่ที่ถูกวัดระดับแอลกอฮอล์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้มีคนบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต
นางวิลาวัลย์ คันโททองคำ นักวิชาการขนส่งชำนิชำนาญการพิเศษ กรมการขนส่งทางบก พูดว่า การเตรียมความพร้อมรถเมล์สาธารณะ กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำหรับเพื่อการตรวจค้นยาเสพติดของพนักงานขับรถขึ้นรถก่อนนำรถยนต์ออกให้บริการทุกหน มีการตั้งจุดตรวจตลอด 1 วัน มีผู้ตรวจการขนส่งประจำในจุดตรวจ เพื่อตรวจทานความพร้อมเพรียงของรถยนต์และก็พนักงานขับรถ การใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงานอุบัติเหตุ เพื่อคนขับทุกคันควรจะมีประสิทธิภาพแล้วก็ตามมาตรฐาน ซึ่งสถิติการตรวจตรวจความพร้อมเพรียงรถยนต์และก็พนักงานขับรถในจุดตรวจ ระหว่างวันที่ 1 เดือนตุลาคม 2564-31 มี.ค. 2565 รวมทั้งสิ้น 347,385 คัน/ราย รถยนต์ผ่านการตรวจรวม 344,648 คัน คิดเป็น 99.21 % รถยนต์ไม่ผ่านการตรวจรวม 2,737 คัน คิดเป็น 0.79 % พนักงานขับรถผ่านการตรวจรวม 347,376 ราย คิดเป็น 99.99 % ไม่ผ่านการตรวจรวม 9 ราย คิดเป็น 0.01 %
“ถ้าเจอข้อผิดพลาดกรณีไม่กระทำตามหรือพนักงานขับรถขาดตกบกพร่อง จะติเตียน เทียบปรับ บัญชาผู้ตรวจการ นำตัวส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนฟ้องร้องถัดไป รวมทั้งกรมการขนส่งทางบกยังได้ร่วมกับกลุ่มโครงข่ายอีกทั้งภาครัฐรวมทั้งเอกชนจัดงานกิจกรรม “ตรวจรถยนต์ฟรี ขับรถไม่เป็นอันตราย” ตั้งแต่ขณะนี้จนกระทั่ง 15 เดือนเมษายน 2565 เพื่อบริการตรวจภาวะความพร้อมเพรียงของรถยนต์รวมทั้งมอเตอร์ไซค์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการ เป็นต้นว่า การตรวจภาวะยาง เบรก รูปแบบการทำงานของเครื่องจักร หม้อน้ำและก็รอยรั่ว และก็ไฟสัญญาณ เพื่อทุกคนมีความปลอดภัยสำหรับการเดินทาง” นางวิลาวัลย์ กล่าว